วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

รสา คำแบน | The Dream Come Through


รสา คำแบนน | Rasa Comeban - The Dream Come Through

"ชีวิตที่ผ่านมาทุ่มเทให้กับงานประจำเรียกได้ว่า เป็นพนักงานดีเด่น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น ยังคงมีหนี้สินอยู่เหมือนเดิม"

“คนที่ประสบความสำเร็จเร็ว คือคนที่เรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นแต่คนที่ประสบความสำเร็จช้า คือคนที่เรียนรู้ประสบการณ์จากตัวเอง” แนวคิดและปรัชญาสู่ความสำเร็จของผู้หญิงแกร่งอย่าง ‘รสา คำแบน’ Presidential Triple Diamond บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ที่มุ่งมั่นตั้งใจสร้างความสำเร็จ จากความฝันบนเส้นทางของธุรกิจขายตรง

จากความคิดที่ว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน ต้องตอกบัตรเข้าทำงานเช้าเย็น เป็นความรู้สึกที่เบื่อหน่ายสำหรับเธอและใครอีกหลายคน หรือแม้จะมีธุรกิจขนาดเล็กเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ถือเป็นความสำเร็จที่แท้จริง เพราะธุรกิจส่วนตัวก็ยังมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนอยู่ บวกกับความคิดที่ว่าอยากจะมีเงินเก็บสักก้อนก่อนเกษียณ เส้นทางชีวิตของเธอคนนี้จึงเดินทางเข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่าย นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นต้นมา

“จริงๆ ก่อนหน้าที่จะเข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย เคยเป็นพนักงานบริษัทเอกชน และเคยเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กมาก่อน ในตอนนั้นพี่รู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตเต็มทนแล้ว เหนื่อยกับชีวิตมาก การเป็นมนุษย์เงินเดือนต้องตอกบัตรเช้าเย็น เป็นลุงตัดต้นไม้ เหมือนหนูถีบจักร พี่เลยคิดว่าพอจะมีธุรกิจอะไรไหม ที่สามารถฝากชีวิตไว้สัก 5 ปี และมีเงินเก็บก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งก่อนจะเกษียณ แล้วมีอะไรไหมที่เกษียณ แล้วไม่ต้องดูแลธุรกิจอีก”

ก่อนหน้านี้เป็นคนที่แอนตี้ธุรกิจขายตรงแบบสุดๆ เพราะความไม่รู้ คือไม่เข้าใจธุรกิจ ก็เลยแอนตี้ไว้ก่อน เพราะคนส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ จะตีความไปก่อนว่าธุรกิจนี้ไม่เวิร์ก และจากการเห็นคนในจังหวัดเดียวกันทำธุรกิจเครือข่ายแล้วไม่มีใครประสบความ สำเร็จ เพื่อนๆ หลายคนเข้าสู่ระบบเน็ตเวิร์กหลายที่ แต่ก็ไม่เห็นมีใครประสบความสำเร็จ ก็เลยคิดว่า ธุรกิจนี้คงไม่ดี และคงทำเงินไม่ได้จริง

แต่พอ “คุณชวิช กิม” เข้ามาเปิดวิสัยทัศน์ได้รู้จักและพูดคุยกัน ถามถึงเหตุผลและความเป็นไปได้ที่ตามมาว่า ภายในระยะเวลา 5 ปีนี้ จะประสบความสำเร็จได้จริงไหม นอกจากนั้นก็มีโอกาสได้ไปดูงานหลายที่กับคุณชวิช

กิมหลังจากนั้นก็เลยเคลียร์ทุกอย่างในชีวิต ขายธุรกิจในมือทั้งหมด แล้วกระโดดเข้ามาเล่นเต็มสองเท้า คือเล่นแบบมืออาชีพ

“ก่อนหน้านี้เคยเข้าไปดูบริษัทอินเตอร์ หลายบริษัท แต่พอเข้าไปดูไปคุยกับผู้บริหารในหลายๆ ที่แล้ว รู้สึกว่าบริษัทเหล่านั้นยังไม่สามารถตอบคำถามภายในใจของตัวเองได้ แต่พอได้คุยกับทางยูนิซิตี้ ที่นี่เป็นที่เดียวที่สามารถตอบคำถามได้ทุกข้อ เคลียร์ได้ทุกอย่างที่ค้างคาใจ ซึ่งสิ่งที่ต้องการทราบนั้นก็เป็นเรื่องของ โปรดักต์ดีจริงหรือไม่ มีแผนการ ตลาดที่มนุษย์สามารถทำได้จริงหรือเปล่า มีการบริหารจัดการแบบมืออาชีพหรือไม่ และที่สำคัญมีความยุติธรรมกับเราหรือไม่ ยูนิซิตี้สามารถให้คำตอบเหล่านี้กับพี่ได้ ทำให้พี่ตัดสินใจลงเรือลำนี้”

เธอเล่าว่าก่อนหน้าที่จะเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายนั้น แทบจะไม่รู้จักธุรกิจนี้ด้วยซ้ำ เพราะชีวิตที่ผ่านมาทุ่มเทให้กับการทำงานประจำ เรียกได้ว่าเป็นพนักงานดีเด่น รับโล่เกียรติยศแทบทุกปี แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของเธอดีขึ้น ยังคงมีหนี้สินอยู่ต่อไป

“ทำงานมาค่อนข้างเยอะ แต่ทุกๆ อย่างไม่สามารถซัพพอร์ตความฝันพี่ได้เลย พี่อยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ เอาง่ายๆ ว่า ทำงานได้เหรียญ เกียรติยศทุกปี แต่ทำไมเราไม่เห็นจะรวยสักที ทำไมถึงยังเป็นหนี้ ได้แต่ถามตัวเองว่าเมื่อไหร่จะจบสิ้นสักที หรือจะต้องรอให้อายุครบ 60 ปีก่อนหรือไง พี่รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิต เต็มที่ ตอนนั้นพี่ไม่รู้จักธุรกิจเน็ตเวิร์กด้วยซ้ำ พอคุณชวิช กิม มาขายวิสัยทัศน์ให้พี่ พี่ถึงรู้

ว่า จริงๆ สิ่งที่รอคอยมันคือธุรกิจเครือข่ายนี่เอง เพราะมันเติมเต็ม มันสามารถตอบคำถามให้พี่ได้ทุกข้อ”

เมื่อเธอตัดสินใจและมุ่งมั่นที่จะเดินทาง ในธุรกิจเครือข่ายแล้ว การเตรียมตัวและเตรียม พร้อมสำหรับการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง “รสา” บอกกับเราว่า

“สำหรับตัวพี่ได้เตรียมตัวและเตรียมความพร้อมในการที่จะ พัฒนาตัวเองให้เป็นมืออาชีพมากที่สุด ศึกษาและเรียนรู้การทำงานของอัพไลน์ เดินตามเส้นทางและคำแนะนำของอัพไลน์ เชื่อมั่นในตัวอัพไลน์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว นอกจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติ และคิดว่าหากพี่มองว่าธุรกิจที่กำลังจะทำเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จและมีรายได้ 7 หลัก แต่ถ้าหากคิดเป็นเพียง ธุรกิจพาสไทม์ รายได้ของเราก็จะพาสไทม์ไปด้วย พี่มองด้วยวิสัยทัศน์แบบนี้ ก็เลยเตรียมพร้อมที่จะลุยงานแบบเต็มสองเท้า”

นอกจากนั้นเธอยังได้เล่าประสบการณ์รวมไปถึงหลักและวิธี การทำงานในธุรกิจเครือข่ายพร้อมทั้งให้แนวคิดที่ว่า การทำงานทุกอย่างนั้น จริงๆไม่มีอะไรมาก เธอใช้ความยืนหยัดและอดทน และมีความฝันที่แรงกล้า เธอมักจะพูดกับทีมงานอยู่เสมอว่า หากทำงานและมีความเชื่อมั่นในเรื่องของความฝันแล้ว รับรองได้ว่าจะต้องประสบความสำเร็จ

อย่างแน่นอน เพราะธุรกิจนี้ทำงานด้วยความฝันมากกว่า 90% ส่วนวิธีการมีแค่ 10% เท่านั้น และหากอยู่ในที่ที่ถูกต้อง และเวลาที่เหมาะสม รับรองว่าจะต้องประสบความสำเร็จ อย่างแน่นอน

“ในส่วนของพี่ถือว่าโชคดีมาก เพราะที่ยูนิซิตี้เรามีระบบยูนิเพาเวอร์อยู่ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนธุรกิจระบบนี้จะซัพพอร์ตคนที่ทำงานไม่เป็นเลย ไม่สนว่าประวัติคุณจะเป็นยังไงเรียนจบอะไรมา แต่ถ้าหากเข้ามาแล้ว ที่นี่จะสอนให้คุณเรียน รู้จากศูนย์ไปจนถึงร้อย เราจะมีสเกลวัดตลอด ว่าหากเดินตามระบบของยูนิเพาเวอร์นั้นในปีแรกรายได้ของคุณจะอยู่ที่ประมาณ เดือนละหนึ่งแสนบาท ปีที่สองรายได้เพิ่มขึ้นเดือน ละประมาณห้าแสน ส่วนปีที่สาม รายได้จะเพิ่มขึ้นเดือนละหนึ่งล้านบาท ระบบจะมีสเกลคอยวัดซึ่งทั้งหมดวัดจากผลตอบแทนที่ได้รับจริง และหากเดินตามระบบแล้วเชื่อว่าจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”

อย่างไรก็ดี แผนการตลาดที่มีประสิทธิ ภาพบวกกับระบบการทำธุรกิจที่เห็นผล ในการ ทำงานนอกจากหลักการแล้ว ผู้หญิงเก่งคนนี้ถือ ว่าความฝันของคนเรานั้นยิ่งใหญ่และสำคัญ มากที่จะเป็นตัวแปรทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้

“พี่มั่นใจและเชื่อในเรื่องของความฝันมาก เพราะคนเรามีสิทธิ์ฝันอะไรได้หลายอย่างในชีวิต แล้วสามารถทำให้เป็นไปตามความฝันได้ ยกตัวอย่างเช่น การผลิตหลอดไฟ อยู่ดีๆ ไม่ใช่ว่าจะผลิตขึ้นมาได้ มันเกิดขึ้นจากความฝันของคนคนนึงว่า วันหนึ่งโลกต้องมีแสงสว่าง หรือเครื่องบินที่สองพี่ น้องตระกูลไรท์ ฝันว่าวันหนึ่งจะมีวัตถุบินได้ และพวกเขาเหล่านั้นก็สามารถทำให้ความฝันเป็น จริงขึ้นมาได้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจนี้ที่พี่เชื่อว่า ภายในระยะเวลา 3 ปี พี่จะต้องทำตามความฝันให้ได้ พอความฝันมันชัดเจน พี่เชื่อว่ามันจะฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ เพราะความฝันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่”

สำหรับการทำ งานบนเส้นทางของธุรกิจเครือข่ายหรือขายตรงนั้น แน่นอนว่ามักมีปัญหาและอุปสรรค อย่างแน่นอน แต่เธอคนนี้กลับคิดว่าสิ่งที่กำลังประสบอยู่นั้นไม่ใช่ ปัญหาแต่นั่นเป็นเพียงสิ่งที่ไม่เคยเจอะเจอมาก่อนเท่านั้นเอง

“อุปสรรคปัญหา ไม่ว่าจะอยู่วงการไหน ธุรกิจ อาชีพไหนก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่พี่ถือว่าอุปสรรคและปัญหาในธุรกิจนี้มันมีวันจบ ลองคิดดูสิปัญหาในงานอื่นของคุณเกิดขึ้นแล้วเมื่อไหร่จะจบละ วันนี้ธุรกิจเครือข่ายยังไงก็ต้องจบภายใน 5 ปีแน่นอน เพราะปัญหาที่นี่เป็นปัญหาคลาสสิก ที่อัพไลน์ผ่านพ้นมาแล้ว พี่ไม่เรียกว่าปัญหาด้วยซ้ำ มันคือสิ่งที่เราไม่เคยเจอมากกว่า หากเราเจอก็ยกหูโทร.หาอัพไลน์แค่นั้นเอง และอัพไลน์จะแนะนำวิธีดีๆ ที่ผ่านพ้นให้เราได้ เพราะอัพไลน์ผ่านปัญหาเหล่านั้นมาหมดแล้ว”

“ในธุรกิจเครือข่ายต้องทำงานกับคำว่า คน และคนเป็นคำกิริยา มักมีปัญหา ความสับสนวุ่นวายต่างๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอด อย่าลืมว่าพื้นฐานแต่ละคนต่างกัน ทั้งครอบครัว การศึกษา ธรรมชาติของคนแตกต่างกัน มาอยู่รวมกัน มันต้องมีวิธีพัฒนาพื้นฐานเดิมของ เขาให้ได้ สังเกตไหมว่าคนส่วนใหญ่ทะเลาะกันมีมุมมองทัศนคติแตกต่างกัน แต่ถ้าวันหนึ่ง คุณอยู่ในธุรกิจเครือข่ายแล้วหากคุณเรียนรู้พัฒนาพื้นฐานคนที่แตกต่างกันได้ แล้ว ปัญหาตรงนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น”

ถ้าหากถามว่าในวันนี้ความสำเร็จทั้งหมดที่เกิดขึ้นถือ เป็นความสำเร็จขั้นสูงสุดที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ ผู้หญิงเก่งคนนี้ตอบได้คำเดียวว่ายังไม่ประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดในธุรกิจ นี้

“ตอนนี้คิดว่าประสบความสำเร็จโดยตำแหน่งของประเทศไทยที่ มียอดขายอันดับสองของประเทศ รองจากคุณชวิช กิม เท่านั้น แต่ความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายไว้มันยังไม่ใช่ พี่ตั้งเป้าไว้ว่าจะส่งต่อความสำเร็จให้ผู้อื่น ซึ่งยังมีคนอีกหลายคนที่พี่มีพันธะสัญญาที่จะส่งต่อความสำเร็จให้พวกเขา เพราะความสำเร็จของพี่ในธุรกิจนี้อย่างแรกคือต้องสร้างตัวเองให้สำเร็จก่อน แล้วต้องสอนคนข้างล่างให้สำเร็จอีกทอด หลังจากนั้นจะต้องสอนคนของคุณให้สร้างคนรุ่นต่อไปให้สำเร็จ เพราะตอนนี้ตัวพี่สำเร็จแล้ว ต่อไปพี่ต้องสร้างคนข้างล่างพี่ให้สำเร็จเสียก่อน ถึงจะเรียกว่าเป็นความสำเร็จที่แท้จริง”

ตอนแรกตั้งเป้าไว้ 5 ปีแล้วจะเกษียณ แต่มามองว่าในเมื่อเรายังมีแรงที่จะทำให้คนอื่นประสบความสำเร็จได้ ทำไมไม่ทำ จะเกษียณไป ทำไม ในเมื่อยังมีแรงที่จะช่วยเหลือผู้คนอยู่ คือหากคุณเข้าสู่ธุรกิจนี้ใหม่ๆ ยังไม่มีความรู้สึกแบบนี้หรอก แต่พอคุณอยู่ไปนนานๆ จะมีความสู้สึกว่า จริงๆ ชีวิตคุณหากอยู่ในธุรกิจนี้ไปนานๆ คุณจะรู้สึกอยากอยู่อีกต่อไป คิดดูว่าบางครอบครัวเขาย่ำแย่ แต่คุณเข้าไปช่วยทำ ให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นจะเป็นอย่างไร และเขาสามารถพลิกชีวิตได้ด้วยความช่วยเหลือของเรา ยังมีครอบครัวที่ด้อยโอกาสอีกหลายครอบครัว ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น

เพราะการหยิบยื่นของเรา และทุกครั้งที่พี่ออกไปทำงาน พี่ออกไปด้วยหัวใจ คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรที่จะเอาเรือลำนี้ไปช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นให้ได้…

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ชีวิตต้องสู้ของผู้หญิงมือเปล่า รสา คำแบน

"3 ปีแห่งการเดินทางสาได้พบสัจธรรมบางอย่างคือความเป็นตัวตนเราหายไป ไม่มีคำว่าเจ็บปวด ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย เพราะเรายืนอยู่บนผลลัพธ์ โดยที่ตาโฟกัสไปที่ฝั่งชีวิตเพียงอย่างเดียว"
- รสา คำแบน นิตยสารหญิงไทย ฉบับที่ 839 ปีที่ 35 ปักษ์หลัง กันยายน 2553

เส้นทางความสำเร็จคุณรสา คำแบน

เส้นทางความสำเร็จคุณรสา คำแบน | Success Story Khun Rasa Comeban: Triple Diamond, Chairman's Club

เส้นทางสู่ความสำเร็จของคุณรสา คำแบน (Rasa Comeban) สุภาพสตรีตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง จากจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จมีชีวิตที่มีความสุขแบบ 100%

Welcome to Khun Rasa Comeban's Blog

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Blog คุณรสา คำแบน เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลความสำเร็จของสุภาพสตรีไทยคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น Make Life Better

บล็อกแห่งนี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคุณรสา คำแบน เพียงแต่เป็นพื้นที่รวบรวมข้อมูลไว้เพื่อให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการประสบความสำเร็จ ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่ได้เอื้อเฟื้อแบ่งปันนำมาเผยแพร่ในพื้นที่แห่งนี้


ด้วยความปารถณาดี

ผู้จัดทำ
http://rasa-comeban.blogspot.com